วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

** ทุกข์ หรือ สุข มีค่าเท่ากัน **



“ผู้ใดยึดในทุกข์ ก็จะประดุจโดนงูเห่ากัด
ผู้ใดยึดในสุขก็เสมือนจับงูเห่าข้างหาย
และจะโดนมันแว้งกัดเอาในภายหลัง”





ดังนั้น ความสุขกับความทุกข์ อารมณ์ชอบใจกับไม่ชอบใจนั้น จึงมีค่าเท่ากัน ถ้าหลงยึดเข้าแล้วก็ให้โทษแก่เราเหมือนๆ กัน เมื่อเราคุ้มครองจิตโดยอาศัย สติดี สัมปชัญญะดี ความพากเพียรถูกต้อง พรั่งพร้อมด้วยความเกรงกลัว ความละอายต่อบาป และความอดทนอดกลั้น
ต่ออารมณ์ที่รุนแรงแล้ว เราย่อมจะเป็นผู้อยู่เหนืออารมณ์ ด้วยจิตที่รู้ ตื่น และเบิกบาน รู้ว่า โลกธรรม ๘ เกิดขึ้นแล้วก็จะดับไป โดยที่ใจของเราไม่เกิดความหวั่นไหวคล้อยตามไปด้วย เปรียบเหมือนเราอยู่ในบ้านที่ปลอดภัย และอบอุ่น ไม่ว่าโลกภายนอกจะเป็นอย่างไร ฝนจะตกหรือแดดจะออก อากาศจะร้อน หรือหนาว บรรยากาศจะสงบนิ่งหรือมีพายุจัดเราเพียงแต่มองดูความเป็นไปจากทางหน้าต่างเท่านั้น
โลกธรรมที่เกิดขึ้นกับเราก็เหมือนธรรมชาติ เหมือนลมฟ้าอากาศ เป็นสิ่งไม่อยู่ในอำนาจการควบคุมของเรา เราทำได้แต่เพียงพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง แล้วปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติอย่างนั้น
แต่บางครั้งบ้านของเราก็เกือบจะพังเหมือนกัน เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา ได้รับทุกข์ บางครั้งเราก็ถูกกระทบจากสิ่งเหล่านี้อย่างรุนแรง แต่เราก็ต้องอดทน และให้เวลาเป็นเครื่องแท้แม้จะเกิดความฟุ้งซ่านวุ่นวาย ความเดือนร้อนใจเพียงใดก็ตามให้ตั้งสติ พิจารณาทบทวนความคิดของตัวเองให้ถูกต้อง





ที่มา. หนังสือ ๓๖ พรรษาพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
โดย. พระอาจรย์มิตซูโอะ คเวสโก 
เรื่อง – ภาพ จากอินเทอร์เนต

ไม่มีความคิดเห็น: